วันเสาร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ท่องแดนพุทธภูมิ ตอน 4 ราชคฤห์_2

หลับไปงีบนึง ตื่นมาอีกที ก็มาถึงเมืองราชคฤห์ แล้วครับ ดูเวลาก็ 9 โมง หน่อยๆ

เมืองราชคฤห์ เป็นเมืองที่ยังอยู่ในรัฐพิหาร อยู่ระหว่าง นาลันทา(ห่างประมาณ 12 กม.) กับ พุทธคยา (ห่างประมาณ 80 กม.) เป็นเมืองที่ เรียกว่า เบญจคีรีนคร เนื่องจาก มีภูเขา 5 ลูกล้อมรอบ เป็นกำแพงเมือง ซึ่งภูเขาที่มีความสำคัญ กว่าเพื่อน คือ ภูเขา “คิชฌกูฏ” ซึ่งเป็นเขาที่มี 3 ยอด มีชื่อว่า “รัตนคีรี” , “ฉัฏฐา” และ “เศละ” ด้วยเหตุนี้ เมืองราชคฤห์ จึงกลายเป็นเมือง ที่มี 7 ยอดเขา หรือ ชาวอินเดีย เรียกว่า “สัตตคิรีนคร” (สัตต แปลว่า เจ็ด)

แน่นอนเป้าหมายที่เราจะไปสักการะบูชาสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ลำดับต่อไป คือ “เขาคิชกูฏ นี่แหละ ของแท้ ที่อินเดียนะครับ แต่ก่อนไป เขาคิชกูฏ คณะทัวร์ได้มาแวะ พักเปลี่ยนอิริยาบถ ปลดหนัก เบา กันที่ รร.อินโด ฮอกเก้ กันก่อนครับ รร.นี้อยู่ใกล้กับ เขาคิชกูฏ มากครับ แต่ครั้นจะเดินไปขึ้นเขาเลยก็เอาเรื่องอยู่ เอ้าเชิญทุกท่านพักตามสะดวกครับ ให้เวลา 15 นาที

SDC11043 โรงแรม อินโด ฮอกเก้ ครับ

SDC11038 พระพุทธรูป ของ รร.อินโด ฮอกเก้ครับ อยู่ในโดมที่เห็นแหละครับ

ระหว่างทางก่อนจะถึงเขาคิชกูฎ ทางเข้าเขา จะผ่านสถานที่สำคัญ เช่น รอยเกวียนโบราณ , วัดชีวกัมพวัน (ถือเป็นโรงพยาบาลสงฆ์แห่งแรกในพุทธศาสนา ถวายโดยหมอชีวกโกมารภัจจ์ ) , เรือนคุมขังพระเจ้าพิมพิสาร (เมื่อโดนพระเจ้าอชาตศัตรูยึดบัลลังค์ได้จับพระองค์มาขังที่นี่) ซึ่งที่เหล่านี้จะเป็นทางที่ต้องผ่านก่อนไปขึ้นเขา แหมเสียดายไม่ได้ลงไปเยี่ยมชมเลยไม่มีรูปมาฝาก

แล้วก็มาถึงแล้วครับ “เขาคิชกูฏ ขนานแท้และดั้งเดิม ความสำคัญของเขาลูกนี้ คือ จะมี พระคันธกุฎี ซึ่งเป็นที่ประทับส่วนพระองค์ ของพระบรมศาสดา อยู่บนยอดเขาสูงสุด ครับ ซึ่งเมื่อพระองค์เสด็จมายังกรุงราชคฤห์ พระองค์ทรงประทับ พักผ่อนพระอิริยาบถที่นี่เป็นประจำ ระหว่างทางขึ้นเขา ก็จะมีสถานที่สำคัญ ได้แก่ กุฏีพระอานนท์ , กุฏีพระมหาโมคคัลลานะ ,ถ้ำสุกรขาตา ซึ่งเป็นที่พระสารีบุตรสำเร็จอรหันต์

บรรยากาศบริเวณจะขึ้นเขาคิชกูฏ (เขาคิชกูฏของแท้ที่อินเดีย) บรรยากาศบริเวณเชิงเขา

เขาคิชกูฎ เห็นทางขึ้นแล้วเดินขึ้นไม่ยากครับ ทางขึ้นไม่ชันมาก แต่กระนั้นก็ตาม ชาวอินเดีย ได้เตรียมบริการผู้มีจิตศรัทธาที่อาจจะเดินขึ้นไม่ไหว หรือท่านที่อยากจะออมแรงไว้ โดยมีเสลี่ยงไว้คอยบริการครับ(800 รูปีไปกลับ) ระยะทางถึงยอดเขาประมาณ 750 เมตร (30 นาที)

เสลี่ยงสำหรับบริการผู้ต้องการขึ้นไปทำบุญบนเขา นี่แหละเสลี่ยงไว้คอยบริการญาติๆ ทั้งหลาย

เสลี่ยงสำหรับบริการผู้ต้องการขึ้นไปทำบุญบนเขา คุณหลิง ดูแลลูกทัวร์ อย่างดี

Happy เย็นสบายดีครับ

วันนี้แดดแรงนิดครับ ดูครับ ทางเดินขึ้นเขาดีมาก เดินได้สบาย ตอนนี้ใกล้ถึงยอดเขาแล้วครับ”

คุณแม่บอกว่า “สบายมากเดินเรื่อยๆ ไม่ต้องรีบเดี๋ยวก็ถึง :)”

ถึงแล้วครับ ยอดเขาคิชกูฎ เราก็จะได้พบกับ พระคันธกุฎี ที่ประทับส่วนพระองค์ เห็นแล้วรู้สึกได้มาเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าเลยครับ ส่วนด้านข้าง ก็จะมี กุฎีพระอานนท์ (พระอานนท์ เป็น พุทธอุปัฎฐาก = พระที่ถวายการรับใช้พระพุทธองค์ และ เปรียบเหมือนเป็นเลขาของพระองค์) บนยอดเขาจะพบพุทธศาสนิกชนมาสักการะบูชากันหลายท่านหลายคณะนะครับ ทยอยกันมา ใครมาถึงก็สวดมนต์ ภาวนากันตามอัธยาศัยครับ แล้วคณะทัวร์เราก็เข้าสู่การทำพิธีสวดมนต์ภาวนาเป็นพุทธบูชา ครับ

พระธิเบต และ พวกเราก็นั่งสวดมนต์ บำเพ็ญสมาธิ หน้าพระคันธกุฏิของพระพุทธเจ้า คณะทัวร์ กำลังสวดมนต์ เป็นพุทธบูชา

สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ พระคันธกุฏิของพระพุทธเจ้าบนเขาคิชกูฏ ขออนุญาติถ่ายภาพกับ พระคันธกุฏีนะครับ

สวดมนต์ภาวนาถวายดอกไม้ ธูป เทียน ทอง(คำเปลว) ที่พระคันธกุฎีเสร็จแล้วก็ค่อยๆ เดินลงมาสักการะสวดมนต์ ภาวนา สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ระหว่างทางบนเขากันต่อ

SDC11062 เสลี่ยงรอรับผู้โดยสาร ลงจากเขาครับ

เริ่มจาก ถ้ำสุกรขาตา ที่พักของพระสารีบุตร (อัครสาวกเบี้องขวา ผู้มากด้วยปัญญา ท่านบรรลุพระอรหันต์ใน 15 วันหลังจากได้ออกบวช) ซึ่งที่ถ้ำนี้ พระมหาอ้าย (พระธรรมบรรยายอีกท่าน) ได้เล่าประวัติของ พระสารีบุตร ให้คณะฟังแบบย่อๆ และท่านมหาอ้าย ได้ให้ข้อคิด กับคณะทัวร์ ที่ถ้ำพระสารีบุตร 3 ข้อ –> สะเทือนใจ ได้ข้อคิด ชีวิตไม่ประมาท

1. สะเทือนใจ - ให้ระลึกถึงสังเวชนียธรรม แล้วเกิดความสังเวช สะเทือนใจเห็นแก่นธรรมของความเป็นจริง (เพิ่งคิดขึ้นได้ว่า สังเวชนียสถาน มาจากคำว่า “สังเวช” นี่เอง คือเป็นสถานที่ทำให้เกิดความสังเวช สะเทือนใจ)

2. ได้ข้อคิด - ให้มองพระสารีบุตร ว่าแม้ท่านจะร่ำรวยเพียงใด แต่ใจก็ยังแสวงออกบวช เพื่อแสวงหาพระนิพพาน

3. ชีวิตไม่ประมาท - อันนี้ตรงตัวขณะมีชีวิตอยู่ให้มุ่งทำความดี ประพฤติ ปฏิบัติธรรม จะตายวัน ตายพรุ่งก็ไม่รู้

สักการะ พระสารีบุตรอัครสาวกเบื้องขวา ถ้ำสุกรขาตา

ต่อมาที่ถ้ำพระโมคคัลลานะ (อัครสาวกเบื้องซ้าย ผู้มากด้วยฤทธานุภาพ ใครจะมาเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าจะต้องพบกับท่านเสียก่อน ท่านบรรลุพระอรหันต์ใน 7 วันหลังจากได้ออกบวช) มาถึงถ้านี้ก็เช่นเคยครับ พระมหาอ้าย ก็เล่าประวัติของ พระโมคคัลลานะ ฉบับย่อ ให้คณะฟัง ตามด้วยการสวดมนต์ สักการะบูชา

สักการะพระโมคคัลลานะอัครสาวกเบื้องซ้าย ที่ ถ้ำพระโมคคัลลานะ ถ้าพระโมคคัลนะ

ตรงปากทางเข้าถ้ำพระโมคคัลลานะ ยังเป็นสถานที่ที่พระเทวทัตกลิ้งหิน หมายลอบปลงพระชนม์พระพุทธเจ้าด้วยแต่ ความชั่วนี้ทำได้แค่ทำให้พระองค์ห้อพระโลหิตที่พระบาทเท่านั้น

SDC11077 สถานที่พระเทวทัตกลิ้งหิน

แล้วก็เดินลงมาถึงด้านล่างอย่างอิ่มบุญ และขอถวายบุญกุศลที่ลูกและคณะได้สวดมนต์ บำเพ็ญภาวนา ณ.สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ แด่พ่อหลวงของชาวไทย ขอให้ท่านทรงสุขพลานามัยแข็งแรงด้วยเทอญ สาธุ

อิ่มบุญแล้ว ก็เที่ยงพอดี ทางคณะต้องไปอิ่มท้องกันต่อ ที่ รร. ฮอกเก้ ก่อนเดินทางไป แสวงบุญกันต่อ ที่ วัดเวฬุวัน ขอไปทานเที่ยงก่อนนะครับ แล้วพบกันในตอนต่อไป เรายังอยู่ที่เมืองนี้กันต่อครับ

ปล. สำหรับพระมหาอ้าย และ พระมหาธนรัฐ ทุกท่านไม่ต้องห่วงฉัน ครับ คุณหลิง ให้รถพาท่านไปฉันเพล ตอน 11 โมงกว่า ที่ รร.ฮอกเก้ เรียบร้อยแล้วครับ

ดู รูป บันทึกการเดินทาง ไปกรุงราชคฤห์ วันที่ 6 ธ.ค.

2 ความคิดเห็น:

  1. หุหุ..จะคอยติดตามตอนต่อไปน่ะครับ..กำลังมัน..:)

    ตอบลบ
  2. ข้อมูลเยอะดีค่ะ

    ตอบลบ