วันอาทิตย์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2553

ท่องแดนพุทธภูมิ ตอน 2 พุทธคยา_2

พุทธคยา ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเนรัญชรา อยู่ในรัฐพิหาร องค์เจดีย์ ที่เรียกว่า มหาเจดีย์พุทธคยา และบริวารจะอยู่ต่ำกว่าระดับพื้นดินปัจจุบัน ถึง 5 เมตร เนื่องจาก มีการขุดค้นที่นี่ และ ขุดดินออก เฉพาะในโซนนี้ โดย ท่านเซอร์อเล็กซานเดอร์ คันนิ่งแฮม แต่ส่วนรอบนอกไม่มีการขุดค้น จึงทำให้บริเวณองค์มหาเจดีย์ อยู่ต่ำกว่าบริเวณโดยรอบ

SDC10982 องค์มหาเจดีย์พุทธคยา

SDC10996 พระพุทธเมตตา

ภายในองค์มหาเจดีย์ ชั้นล่าง จะมีพระพุทธรูป ปางมารวิชัย สร้างจากหินแกรนิต สูงประมาณ 2 เมตรเศษ เรียกว่าหลวงพ่อพุทธเมตตา

หลวงพี่ธนรัชต์ ได้พาคณะทัวร์ นำชมสถานที่สำคัญ รอบๆ องค์มหาเจดีย์ และ ให้ความรู้ต่างๆ มากมาย ไล่เรียงมาตั้งแต่ องค์มหาเจดีย์ พุทธคยา ที่เริ่มสร้างในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช สร้างเป็น 2 ชั้น ชั้นแรกเป็นห้องโถง ประดิษฐาน พระพุทธเมตตา ชั้นที่ 2 เป็นห้องวิปัสสนา

ปัจจุบันพระมหาเจดีย์พุทธคยาและปริมณฑล ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ประเภทมรดกทางวัฒนธรรมจากองค์การยูเนสโก

SDC10955 บริเวณองค์เจดีย์พุทธคยา คนมาสักการะบูชากันเยอะมาก

SDC10960

SDC10962 บริเวณรอบๆองค์มหาเจดีย์

หลังจากบรรยายภาพรวมเสร็จแล้ว หลวงพี่ ก็พาลงไปดู ต้นอชปาลนิโครธ จำลอง ซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้ามหาเจดีย์ พุทธคยา ลงบันไดไปปุ๊บ ก็เห็นปั๊บ ซึ่งจุดนี้เป็นจุดที่พระพุทธเจ้าได้มาเสวยวิมุติสุขในสัปดาห์ที่ 5 หลังจากตรัสรู้แล้ว

SDC11014 ต้นอชปาลนิโครธ (จำลอง)

อ้อลืมบอกไปอย่างหนึ่ง ที่นี่ ถ้าจะนำกล้องถ่ายรูปเข้าไปในบริเวณองค์เจดีย์พุทธคยา เพื่อชักภาพ จะต้องจ่าย 20 รูปี ถ้าเป็นกล้องวิดีโอ ก็ 300 รูปี (1รูปี ก็ประมาณ 0.66 บาท) และ ก็ต้องฝากรองเท้าไว้ด้วย(เสียค่าฝากเท่าไหร่จำไม่ได้น่าจะประมาณ 20 รูปี) ก่อนเข้าไปในเขตองค์มหาเจดีย์ ดังนั้น ให้ดีควรสวมถุงเท้าไว้สำหรับการเดินไหว้พระ หรือ ชมองค์มหาเจดีย์ ก็ดีเหมือนกัน

SDC10987

จากนั้นหลวงพี่ก็พาไปชมสระมุจลินทร์ (จำลอง) ซึ่งเป็นสถานที่พระยามุจลินทร์มาคราช ได้เข้าถวายอารักขาด้วยแผ่พังพานพร้อมด้วยขนด 7 รอบ เพื่อป้องกันพระองค์ จากพายุฝน ขณะที่พระองค์ประทับเสวยวิมุติสุขในสัปดาห์ที่ 6

SDC10967

เสาที่เห็นคนดูกันเยอะๆ นี้เป็นเสาหินพระเจ้าอโศกมหาราช(จำลอง) สร้างเป็นอนุสติพุทธานุสรณ์ตั้งอยู่หน้าวิหารสระมุจลินทร์จำลอง

SDC10974 สระมุจลินทร์ (จำลอง)

เมื่อชมสระมุจลินทร์ เสร็จแล้วก็เดินเวียนรอบ องค์มหาเจดีย์ ซึ่งวันนี้ก็มีคณะทัวร์จากเมืองไทย และ คณะพระไทย มาเวียนเทียนสวดมนต์ รอบองค์มหาเจดีย์ด้วย (ไม่รู้ว่าจะมีแบบนี้ทุกวันหรือป่าว) จากนั้นเมื่อเวียนเทียนเสร็จ ก็เข้าไปไหว้พระพุทธเมตตา ถวายผ้าไตรจีวร

SDC10990 พระสงฆ์ และคณะพุทธศาสนิกชน เวียนเทียนรอบองค์พระมหาเจดีย์

เมื่อเสร็จจากการไหว้พระพุทธเมตตาแล้ว หลวงพี่ธนรัชต์ และคณะเอื้องหลวงเรา ก็พากันไปหามุมเหมาะๆ ในการสวดมนต์ ทำวัตรค่ำ และก็ได้ที่เหมาะๆ แล้วคือ ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ซึ่งเป็นสถานที่ประทับอธิษฐานเพื่อบรรลุโพธิญาณ และได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ปัจจุบันต้นนี้เป็นต้นที่ 4 ปลูกโดย เซอร์ อเล็กซานเดอร์ คันนิ่งแฮม ถึงปีพศ. 2552 นี้ ก็มีอายุ 129 ปีแล้ว

SDC11006SDC11001 กำลังเตรียมสวดมนต์กันที่ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์

ได้ที่เหมาะๆ แล้วก็ทำใจให้สงบ กับยามค่ำคืนแรกที่พุทธคยา หยิบหนังสือสวดมนต์ออกมา (ตามด้วยไฟฉายส่องบทสวดมนต์) และก็เริ่มสวดมนต์ทำวัตรค่ำกันเลย โดยการนำสวดของพระมหาธนรัชต์ เมื่อสวดมนต์เสร็จแล้วก็ อธิษฐานให้พ่อหลวงของชาวไทย ทรงพระเจริญ สุขภาพแข็งแรง แล้วก็อุทิศบุญกุศลต่อไป สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

SDC11018 กำลังเดินออกจากเขตพุทธคยาแล้ว

SDC11020 สภาพด้านนอกเขตพุทธคยา

พรุ่งนี้ เรายังพักอยู่ที่เมืองคยา แต่จะเดินทางไปจาริกบุญ กันต่อที่เมืองราชคฤห์ นะครับ โปรดติดตามตอนต่อไป

ประวัติของพุทธคยา ยังมีที่น่าสนใจอีกมากถ้า ท่านใดสนใจรายละเอียด ก็สามารถหาอ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่

ดูรูปบันทึกการเดินทาง พุทธคยาวันที่ 5 ธ.ค. ทั้งหมดได้ ที่นี่

วันเสาร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2553

ท่องแดนพุทธภูมิ ตอน 1 พุทธคยา_1

5 ธันวาคม 2552

แล้วก็มาถึงวันที่รอคอย กับ การเดินทางกราบสักการะพุทธสังเวชนียสถาน สำหรับ Trip นี้ เริ่มการเดินทาง วันที่ 5 ธ.ค. ก็เป็นวันพ่อแห่งชาติพอดี

ลูกทัวร์ทั้งหมดพร้อมกันที่ สุวรรณภูมิ 9.30 น. และก็เป็นธรรมเนียมเล็กๆ ของผมเอง ก็ขอถ่ายรูปที่สุวรรณภูมิซะหน่อย แม้จะไปบ่อยก็ตาม เอาไว้ให้ครบ set สำหรับการเดินทาง

SDC10912 ถ่ายที่สุวรรณภูมิ

12.10 ได้เวลาบินสู่เมืองคยา (GAYA) โดย TG8820 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชม. 20 นาที ก็ถึงเมืองคยา ซึ่งเวลาในอินเดีย จะช้ากว่าเวลาในเมืองไทย 1 ชั่วโมง 30 นาที ซึ่งเมื่อถึงเมืองคยา เราก็ต้องปรับนาฬิกา ให้ช้าลงมาเป็นเวลาเมืองอินเดีย เป็นเวลา 14.00 น. (เวลาเมืองคยา) เราก็มาถึงแผ่นดินอินเดีย แดนชมพูทวีป ที่ GAYA Airport

สนามบินเมืองคยา ก็เป็นสนามบินเล็กๆ มีรถมารับถึงเครื่องบิน เพื่อไปที่ตัว Airport แต่มาทุกคนลงมาถึงลานสนามบินแล้วพินิจดูแล้วเดินไป ที่ตัว Airport คงเร็วกว่า เพราะมันใกล้มากๆ เดิน 3 นาทีน่าจะถึง ว่าแล้วก็ร่วมใจกันเดินไปเลยดีกว่า

SDC10918

SDC10921 แค่นี้เอง เดิน 3 นาทีก็ถึง

จากสนามบิน ผ่านด่าน ตม. แล้ว ก็ขึ้นรถทัวร์ คันส้ม ซึ่งจะเป็นรถที่พาเราเดินทางไปสถานที่ต่างๆ ตลอดการเดินทางในอินเดียนี้ ดูสภาพรถแล้วดูดี กว่า ตอนที่การบินไทย Brief โปรแกรม ให้ฟังก่อนเดินทางมามาก กรุ๊ปนี้แบ่งลูกทัวร์เป็น 2 คันรถ ผมนั่งคัน B มีคุณหลิง เป็นไกด์ประจำรถคัน B ซึ่ง คุณหลิง เล่าให้ฟังเกี่ยวกับรถว่า ตอนนี้อินเดียได้ปรับปรุงรถทัวร์ให้ดีขึ้นมามาก แอร์ก็สามารถปรับความแรง ปรับอุณหภูมิได้แล้ว แต่ก่อน มีเปิด กับ ปิด อยู่ 2 อย่าง ไม่ร้อนก็หนาวเลย

คุณหลิงเล่าให้ฟังว่า แต่ก่อน การเดินทางมาสักการะแดนศักดิ์สิทธิ์ นี้จะต้องนั่งเครื่องไปลงที่ กัลกัตต้า ก่อน แล้วนั่งรถต่อมาที่เมืองคยา อีกประมาณ 5-6 ชม. การเดินทางค่อนข้างลำบาก แต่ปัจจุบัน การบินไทย มาเดินเรื่องเปิดเส้นทาง กรุงเทพ - เมืองคยา ทำให้การเดินทางสะดวกมากและลดเวลาเดินทางได้มาก สำหรับ รร.ทีพัก ในอินเดีย ราคาแพงมาก โดยทั่วไป ขั้นต่ำก็ ประมาณ 150 USD (~5,000 บาท)

SDC10928 คุณหลิง ไกด์ประจำทัวร์

จากสนามบิน นั่งรถส้ม เรียร้อย ก็เดินทางเข้าที่พักก่อน คืนนี้เรา จะพักที่ Royal Residency Hotel อยู่ห่างจากสนามบินประมาณ 7 กม. รร.ที่นี่เป็น 5 ดาวของเมืองคยา แล้วนะ แต่ก็เทียบ 5 ดาวในเมืองหลวงคงไม่ได้ เก็บสัมภาระเรียบร้อย ก็เตรียมไป พุทธคยากันเลย

SDC10937 ภายใน Royal Residency Hotel

แล้วก็ได้เวลาเดินทางไป พุทธคยา แล้ว การเดินทางครั้งนี้ ทางการบินไทย ได้นิมนต์ พระธรรมทูต เพื่อเป็นพระธรรมบรรยาย ตลอดการเดินทางในครั้งนี้ด้วย สำหรับ กลุ่ม B ก็จะเป็นพระมหาธนรัชต์ (ปัจจุบันจบ Doctor สาขา.. ที่อินเดียแล้ว)

แล้วก็ถึงพุทธคยา ดินแดนอันเป็นสถานที่ ตรัสรู้ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นสถานที่ สังเวชนียสถานที่แรก สำหรับ Trip นี้

SDC10944 พระมหาธนรัชต์ พระธรรมทูต ที่เป็นพระวิทยากรบรรยายธรรมให้พวกเรา

พุทธคยา สถานที่ตรัสรู้

SDC10953

  • ได้ปัญญาเป็นอาวุธ
  • ได้รับความรู้แจ้งแทงตลอด
  • ได้ชัยชนะด้วยบารมีไม่มีแพ้

ข้อความข้างต้น เป็นวาทะธรรมโดย พระราชรัตนรังษี

เมื่อไปถึงพุทธคยา ก่อนเข้าไปถึงเขตองค์มหาเจดีย์ พุทธคยา นั้นบริเวณด้านนอก จะเต็มไปด้วยร้านค้า และ ขอทาน เมื่อเข้าไปถึงองค์มหาเจดีย์ แล้ว ได้พบกับ พระจากหลายนิกาย จากหลายประเทศ ที่มาสักการะองค์มหาเจดีย์ และ พระพุทธรูป หลวงพ่อพุทธเมตตา

ภาพโดยรวม จะเห็นมีทั้งพระแต่ละนิกาย และพุทธศาสนิกชน มาหามุมในการนั่งปฏิบัติธรรมสวดมนต์ นั่งสมาธิ กันมากมาย และ วันนี้มีคณะนักท่องเที่ยวจากไทย มาหลายคณะเหมือนกัน ก็มาสวดมนต์ เวียนเทียนรอบๆ พระมหาเจดีย์ และแต่ละคณะจากไทยที่มาสวดมนต์ปฏิบัติธรรม จะมีเป้าหมายหนึ่งที่เหมือนๆกัน คือ ตั้งใจแบ่งบุญกุศล ที่ได้ปฏิบัตินี้ให้พ่อหลวงของพวกเรา ให้มีสุขภาพแข็งแรง พระชนม์มายุยิ่งยืนนาน

มีอะไรใน พุทธคยาให้เราได้ศึกษาบ้าง องค์มหาเจดีย์พุทธคยาประกอบด้วยสถานที่สำคัญอะไรบ้าง ติดตามตอนต่อไปนะคร๊าบ

ดูรูปพุทธคยาวันที่ 5 ธ.ค. ได้ ที่นี่

วันพุธที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2553

ท่องแดนพุทธภูมิ ตอน 0

 

สวัสดีครับ เพื่อนๆ ทุกท่าน ปี 2009 เป็นอีกปี ที่มีโอกาสได้ทำฝันในเรื่องการท่องเที่ยวให้สำเร็จไปอีก 1 สถานที่ นั่นคือ ได้ไปท่องเที่ยว จาริกแสวงบุญ ณ. ประเทศอินเดีย และ เนปาล แดนพุทธภูมิ หรือ ที่บางทีเรียกว่า ชมพูทวีป ดินแดน ที่พระพุทธเจ้าได้เคยทรงประทับและเผยแผ่พระธรรมคำสอนต่างๆ อันเป็นความจริงของโลก เป็นประเทศที่ตั้งใจว่าจะต้องไปให้ได้ เพื่อไปนมัสการสังเวชนียสถานทั้ง 4 แห่ง หรือ มักจะเรียกว่า 4 ตำบล ได้แก่

1. ลุมพินีวัน - สถานที่ประสูติ

SDC11698

2. พุทธคยา - สถานที่ตรัสรู้

 SDC10953

3. พาราณสี - สถานที่แสดงปฐมเทศนา

SDC11375

4. กุสินารา - สถานที่ปรินิพพาน

SDC11554

 

โดยการเดินทางครั้งนี้ ก็ตั้งใจอีกแหละ ว่าจะต้องพาคุณแม่ ไปนมัสการสถานที่ศักดิ์สิทธิ์นี้ด้วยกันให้ได้ และ ทัวร์ ที่เลือกจะไปด้วยก็คือ ทัวร์เอื้องหลวง เนื่องจากเชื่อว่าการบินไทยน่าจะดูแล ลูกทัวร์ได้ดี กับการเดินทางไปประเทศที่รับรู้มาว่าการเดินทางค่อนข้างลำบากในการไปแต่ละเมือง ซึ่งคุณแม่ เราก็อายุ 73 แล้วก็เลยต้องหาทัวร์ที่เรามั่นใจหน่อย และก็ไม่ผิดหวัง โดยรวมต้องบอกว่าทัวร์เอื้องหลวง ดูแลดีมาก ทั้งที่พัก อาหารการกิน มีแม่ครัวไทย จัดไปเรียบร้อย ไม่ต้องห่วงเรื่องกิน เรื่องที่พัก (รร.5ดาว ตลอด) เที่ยวไหว้พระทำบุญอย่างเดียวให้สบายใจได้เลย

แหม! เดี๋ยวจะหาว่าเราได้ค่าโฆษณาจากการบินไทย ขอตัดไปที่ เส้นทางแสวงบุญให้พอเห็นภาพก่อนแล้วกันนะครับ สำหรับบทความตอนนี้

โดย Trip นี้ ใช้เวลาทั้งสิ้น 8 วัน 7 คืน ครับ โดย วันที่เดินทาง ผมเลือกวันเสาร์ที่ 5 ธ.ค. วันพ่อ ถึงวันเสาร์ที่ 12 ธ.ค. ครับ โดย Route การเดินทาง คือ

กรุงเทพ -> เมืองคยา (เครื่องบิน 3.20ชม.)-> นาลันทา(รถทัวร์ 2.30 ชม.) -> พาราณสี (เครื่องบิน) -> สาวัตถี (รถทัวร์ 8ชม.) -> กุสินารา (รถทัวร์ 8 ชม.) -> ลุมพินี(เนปาล)(รถทัวร์ 6 ชม.) -> กาฐมาณฑุ(เนปาล)(เครื่องบิน 45 นาที) -> กรุงเทพ (เครื่องบิน 3.20 ชม.)

เกริ่นนำให้พอเห็นภาพก่อนนะครับสำหรับตอนนี้ (เลยให้เป็นตอนที่ 0) ตอนต่อๆไป จะมาเล่าให้ฟัง ในแต่ละวัน ว่าได้ไปที่เมืองไหนบ้าง มีกิจกรรมทำบุญ ทำกุศล อะไรบ้าง การเดินทาง ลำบากหรือไม่ ติดตามได้ตอนต่อไปครับ