พุทธคยา ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเนรัญชรา อยู่ในรัฐพิหาร องค์เจดีย์ ที่เรียกว่า มหาเจดีย์พุทธคยา และบริวารจะอยู่ต่ำกว่าระดับพื้นดินปัจจุบัน ถึง 5 เมตร เนื่องจาก มีการขุดค้นที่นี่ และ ขุดดินออก เฉพาะในโซนนี้ โดย ท่านเซอร์อเล็กซานเดอร์ คันนิ่งแฮม แต่ส่วนรอบนอกไม่มีการขุดค้น จึงทำให้บริเวณองค์มหาเจดีย์ อยู่ต่ำกว่าบริเวณโดยรอบ
ภายในองค์มหาเจดีย์ ชั้นล่าง จะมีพระพุทธรูป ปางมารวิชัย สร้างจากหินแกรนิต สูงประมาณ 2 เมตรเศษ เรียกว่าหลวงพ่อพุทธเมตตา
หลวงพี่ธนรัชต์ ได้พาคณะทัวร์ นำชมสถานที่สำคัญ รอบๆ องค์มหาเจดีย์ และ ให้ความรู้ต่างๆ มากมาย ไล่เรียงมาตั้งแต่ องค์มหาเจดีย์ พุทธคยา ที่เริ่มสร้างในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช สร้างเป็น 2 ชั้น ชั้นแรกเป็นห้องโถง ประดิษฐาน พระพุทธเมตตา ชั้นที่ 2 เป็นห้องวิปัสสนา
ปัจจุบันพระมหาเจดีย์พุทธคยาและปริมณฑล ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ประเภทมรดกทางวัฒนธรรมจากองค์การยูเนสโก
บริเวณองค์เจดีย์พุทธคยา คนมาสักการะบูชากันเยอะมาก
หลังจากบรรยายภาพรวมเสร็จแล้ว หลวงพี่ ก็พาลงไปดู ต้นอชปาลนิโครธ จำลอง ซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้ามหาเจดีย์ พุทธคยา ลงบันไดไปปุ๊บ ก็เห็นปั๊บ ซึ่งจุดนี้เป็นจุดที่พระพุทธเจ้าได้มาเสวยวิมุติสุขในสัปดาห์ที่ 5 หลังจากตรัสรู้แล้ว
อ้อลืมบอกไปอย่างหนึ่ง ที่นี่ ถ้าจะนำกล้องถ่ายรูปเข้าไปในบริเวณองค์เจดีย์พุทธคยา เพื่อชักภาพ จะต้องจ่าย 20 รูปี ถ้าเป็นกล้องวิดีโอ ก็ 300 รูปี (1รูปี ก็ประมาณ 0.66 บาท) และ ก็ต้องฝากรองเท้าไว้ด้วย(เสียค่าฝากเท่าไหร่จำไม่ได้น่าจะประมาณ 20 รูปี) ก่อนเข้าไปในเขตองค์มหาเจดีย์ ดังนั้น ให้ดีควรสวมถุงเท้าไว้สำหรับการเดินไหว้พระ หรือ ชมองค์มหาเจดีย์ ก็ดีเหมือนกัน
จากนั้นหลวงพี่ก็พาไปชมสระมุจลินทร์ (จำลอง) ซึ่งเป็นสถานที่พระยามุจลินทร์มาคราช ได้เข้าถวายอารักขาด้วยแผ่พังพานพร้อมด้วยขนด 7 รอบ เพื่อป้องกันพระองค์ จากพายุฝน ขณะที่พระองค์ประทับเสวยวิมุติสุขในสัปดาห์ที่ 6
เสาที่เห็นคนดูกันเยอะๆ นี้เป็นเสาหินพระเจ้าอโศกมหาราช(จำลอง) สร้างเป็นอนุสติพุทธานุสรณ์ตั้งอยู่หน้าวิหารสระมุจลินทร์จำลอง
เมื่อชมสระมุจลินทร์ เสร็จแล้วก็เดินเวียนรอบ องค์มหาเจดีย์ ซึ่งวันนี้ก็มีคณะทัวร์จากเมืองไทย และ คณะพระไทย มาเวียนเทียนสวดมนต์ รอบองค์มหาเจดีย์ด้วย (ไม่รู้ว่าจะมีแบบนี้ทุกวันหรือป่าว) จากนั้นเมื่อเวียนเทียนเสร็จ ก็เข้าไปไหว้พระพุทธเมตตา ถวายผ้าไตรจีวร
พระสงฆ์ และคณะพุทธศาสนิกชน เวียนเทียนรอบองค์พระมหาเจดีย์
เมื่อเสร็จจากการไหว้พระพุทธเมตตาแล้ว หลวงพี่ธนรัชต์ และคณะเอื้องหลวงเรา ก็พากันไปหามุมเหมาะๆ ในการสวดมนต์ ทำวัตรค่ำ และก็ได้ที่เหมาะๆ แล้วคือ ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ซึ่งเป็นสถานที่ประทับอธิษฐานเพื่อบรรลุโพธิญาณ และได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ปัจจุบันต้นนี้เป็นต้นที่ 4 ปลูกโดย เซอร์ อเล็กซานเดอร์ คันนิ่งแฮม ถึงปีพศ. 2552 นี้ ก็มีอายุ 129 ปีแล้ว
กำลังเตรียมสวดมนต์กันที่ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์
ได้ที่เหมาะๆ แล้วก็ทำใจให้สงบ กับยามค่ำคืนแรกที่พุทธคยา หยิบหนังสือสวดมนต์ออกมา (ตามด้วยไฟฉายส่องบทสวดมนต์) และก็เริ่มสวดมนต์ทำวัตรค่ำกันเลย โดยการนำสวดของพระมหาธนรัชต์ เมื่อสวดมนต์เสร็จแล้วก็ อธิษฐานให้พ่อหลวงของชาวไทย ทรงพระเจริญ สุขภาพแข็งแรง แล้วก็อุทิศบุญกุศลต่อไป สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
พรุ่งนี้ เรายังพักอยู่ที่เมืองคยา แต่จะเดินทางไปจาริกบุญ กันต่อที่เมืองราชคฤห์ นะครับ โปรดติดตามตอนต่อไป
ประวัติของพุทธคยา ยังมีที่น่าสนใจอีกมากถ้า ท่านใดสนใจรายละเอียด ก็สามารถหาอ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่
ดูรูปบันทึกการเดินทาง พุทธคยาวันที่ 5 ธ.ค. ทั้งหมดได้ ที่นี่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น