วันอาทิตย์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2553

ท่องแดนพุทธภูมิ ตอน 7 พาราณสี_1

วันนี้ 7 ธันวา โปรแกรมเราจะไปเมืองพาราณสี หรือ ตามภาษาอังกฤษ อ่านว่า วาราณสี (Varanasi) ก่อนไปพาราณสี เราต้องไปแวะทำบุญไหว้พระกับ วัดไทย ที่เมือง คยา กันก่อนนะครับ

8.00 น. –> ห่างจาก รร. Royal Residency Hotel ไปประมาณ 5 นาที ก็มาถึงวัดไทยพุทธคยา กันแล้ว วัดนี้สร้างตั้งแต่สมัยรัฐบาล จอมพล ป. พิบูลสงคราม พ.ศ. 2500 เป็นวัดไทยแห่งแรกในประเทศอินเดีย พระอุโบสถทรงไทย ถ่ายแบบมาจาก พระอุโบสถวัดเบญจมบพิตร พระประธาน ก็เป็นรูปแบบกับพระประธานที่วัดเบญฯ มีท่านเจ้าคุณพระเทพโพธิวิเทศ (ทองยอด ภูริปาโลปธ.9 Ph.D) หัวหน้าพระธรรมทูต สายประเทศอินเดีย เป็นเจ้าอาวาส

SDC11202 วัดไทยพุทธคยา

มาถึงวัดไทยพุทธคยา ทั้งที ไม่ทำบุญไม่ได้แล้ว ว่าแล้วก็ร่วมทำบุญถวายผ้าป่า ไป 300 รูปี รวมเงินทำบุญของคณะทัวร์เราเที่ยวนี้ คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 51,000 บาท สาธุๆ อนุโมทามิ

ดู ทำบุญ วัดไทยพุทธคยา
ทำบุญถวายผ้าป่าที่วัดไทยพุทธคยา

9.00 น. –> เสร็จจากไหว้พระทำบุญที่วัดไทยพุทธคยาแล้ว ก็ไปต่อที่ บ้านนางสุชาดา ที่ ต.อุรุเวลาเสนานิคม (แปลว่า ตำบลที่เต็มไปด้วยทราย (อุรุ แปลว่า ทราย) บ้านนางสุชาดา ลักษณะปัจจุบันเป็นสถูป สร้างตั้งแต่สมัย พระเจ้าอโศกมหาราช หลังครองราชย์นาน 10 ปี และต่อเติมในยุคราชวงศ์ปาละ ปัจจุบันสถูปสูง 11 เมตร เป็นรูปทรงกลม สร้างเพื่อแสดงความระลึกถึง นางสุชาดา ธิดาของคฤหบดี ผู้มีส่วนในเหตุการณ์ที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ โดยได้ถวายข้าวปั้นมธุปายาสซึ่งเป็นข้าวที่หุงด้วยน้ำนมวัว อันประณีต 49 ปั้น พร้อมถาดทองคำแท้ แด่พระบรมศาสดาก่อนตรัสรู้

SDC11211 บริเวณทางเข้าบ้านนางสุชาดา

สถานที่นี้ คาดว่าเป็นบ้านนางสุชาดา ธิดาของคฤหบดี สถูปบ้านนางสุชาดา

ขอทานบริเวณบ้านนางสุชาดา ขอทานบริเวณบ้างนางสุชาดา

ใกล้บ้านนางสุชาดา จะเป็นแม่น้ำเนรัญชรา ซึ่งเป็นสถานที่ที่พระพุทธเจ้ามาตั้งจิตอธิษฐานก่อนตรัสรู้ พร้อมลอยถาดเสี่ยงพระบารมี “ถ้าจะได้ตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ ขอให้ถาดทองลอยทวนกระแสน้ำ หากไม่สำเร็จสมประสงค์ ขอให้ถาดลอยไปตามกระแสน้ำ” ซึ่งทางทัวร์ได้พาไปชม บริเวณริมฝั่งแม่น้ำ ท่าสุปปติฏฐะ แต่ต้องขอโทษที่ไม่สามารถนำภาพบริเวณนี้มาให้ชมได้ เนื่องจาก ทางไกด์แนะนำไม่ให้ลงจากรถ เนื่องจาก ขอทานที่นี่เยอะมาก (ถือว่าเป็นลูกหลานนางสุชาดาซะจะได้สบายใจไม่เครียด) ลงไปอาจไม่สะดวก และการให้ทาน ก็ควรให้ขณะอยู่บนรถ (ถ้าอยากให้) ไม่งั้นจะโดนรุมขอทานแบบถล่มทลาย เราก็เลยให้ทานไปด้วย 40 รูปี

ดูกันอีกครั้ง ริมแม่น้ำเนรัญชรา ที่แห้งขอด กลายเป็นแม่น้ำทราย เป็นสถานที่ๆ พระพุทธเจ้าทรงอธิษฐานลอยถาดทองคำที่นางสุชาดาถวายพร้อมข้าวมธุปายาส แม่น้ำเนรัญชรา ที่แห้งผาก ที่พระองค์มาอธิษฐานก่อนตรัสรู้

จบจากบ้านนางสุชาดาก็ไปไหว้พระ สวดมนต์ อำลาดินแดนศักดิ์สิทธิ์ พุทธคยา ก่อนจะลัดฟ้าไปสู่พาราณสี

SDC11228 มาอำลาดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่พุทธคยา

หลังจากหม่ำกลางวันที่ รร. Royal แล้วเสร็จ ก็เดินทางออกจาก รร. ไปสู่สนามบินคยาได้เลย โดยแผนการเดินทางเนื่องจากสนามบินพาราณสี เล็กมาก และจำกัดด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกในการขนถ่ายสัมภาระ ทางเอื้องหลวงจึงนำกระเป๋า สัมภาระขนาดใหญ่ของลูกทัวร์ เดินทางล่วงหน้าโดยรถยนต์ไปพาราณสีตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 6 แล้ว ให้ลูกทัวร์ เหลือไว้แต่กระเป๋าเล็กสัมภาระจำเป็นเพื่อนำขึ้นเครื่องที่คยา และ ขนเดินทางออกจากสนามบินได้เลย ที่พาราณสี เพื่อลดเวลาในสนามบิน

13.00 น.-> ถึงสนามบินคยาแล้ว สนามบินที่นี่เป็นสนามบินเล็ก แต่ตรวจเข้มมาก มีจุดตรวจ Passport 2 ครั้ง ก่อนจะมาตรวจที่ ตม. แต่เนื่องจากมากับทัวร์เอื้องหลวง ทำให้ลดขั้นตอนนี้ไปได้ จากนั้นก็มาเช็ค Boarding Pass มีการตรวจค้น เมื่อผ่านแล้วจะมีการ Stamp ตราครั้งที่ 1 อย่าลืมดูว่า Stamp เรียบร้อยนะครับ ถ้าลืมแล้วเดินไปถึงจุดที่ 2 แล้วไม่มี Stamp มาก่อน จะต้องกลับไปเดินกลับไป Stamp ใหม่ นะซิบอกให้

การตรวจของ สนามบิน GAYA ห้องที่คลุมด้วยม่านสีแดง สำหรับการตรวจแบบละเอียด สนามบินคยา ห้องม่านแดง เป็นห้องตรวจค้นสำหรับ ผู้หญิง

14.45 น. –> ขึ้นเครื่อง TG ไปพาราณสี ใช้เวลาประมาณ 35 นาที แต่ถ้าเดินทางด้วยรถใช้เวลาประมาณ 6 ชม. เมื่อถึงสนามบินพาราณสี แล้ว ก็นั่งรถเข้าไปตัวเมือง อีก 20 นาที โดยเป้าหมายของเรา ได้แก่ ป่าอิสิปมฤคทายวัน / สวนสารนารถ

เมืองพาราณสี ถือเป็นเมือง ศก.ท่องเที่ยว มีประชากร 130 ล้านคน มี 2 ม. ให้พูดถึง ได้แก่ ม.เมืองอมตะไม่เคยตาย กับ ม.แม่น้ำคงคา จากสวรรค์

เล่ามาซะยืดยาว ยังไม่ได้เที่ยวเมือง พาราณสีเลยอ่ะ ดูแล้วคงต้องยกยอดไปไว้ตอนต่อไปแล้วล่ะ แล้วพบกันใหม่ตอนหน้าครับ

ดูรูปวันที่ 3 ของการเดินทาง (7 ธ.ค.) ทั้งหมด ได้ ที่นี่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น